top of page
Search
Writer's pictureSanfann shop

ทำความรู้จัก เจน เบอร์กิ้น เจ้าของตำนานกระเป๋าสาน เทรนด์ที่กลับมาฮิตทั่วโลกในตอนนี้

Updated: Nov 14, 2018

หลังจากที่เราสนับสนุนให้สังคมหันมานิยมความเป็นไทยกันอยู่นาน ในที่สุด ภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างการจักสานก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่วัยรุ่น (สักที) เพราะท่ามกลางเสื้อผ้าเครื่องประดับราคาแพงบนรันเวย์ไฮเอนด์ระดับโลก อีกหนึ่งเทรนด์ที่ดูย้อนแย้ง แต่กลับอยู่รอดมาตั้งแต่ซัมเมอร์ปีที่แล้วก็คือ ‘กระเป๋าสาน’ นั่นเอง

     แน่นอนว่าหลายๆ คนคงจะเริ่มเห็นสาวๆ หันมาหิ้วกระเป๋าสานกันมากขึ้นเรื่อยๆ และชาวบ้านที่ทำเครื่องจักสานเป็นอาชีพคงดีใจกันน่าดูที่อยู่ดีๆ วัยรุ่นก็หันมาสนใจหัตถกรรมไทยกันซะอย่างนั้น (ล่าสุดผู้เขียนเองได้ติดต่อไปที่กลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านท้องคุ้ง จังหวัดชัยนาท เลยได้ทราบว่า ตอนนี้ถึงกับผลิตรองเท้าสานจากผักตบชวาไม่ทันความต้องการของตลาดไปแล้ว) และไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยอดการค้นหาคำว่ากระเป๋าสาน (Straw bag) ใน Google ก็เพิ่มจากร้อยละ 10 ในปี 2015 มาเป็นร้อยละ 98 ในเดือนมิถุนายน ปี 2017 และมีบทความมากมายพยายามหาที่มา ว่าใครกันที่เป็นคนนำกระเป๋าสานมาใช้ในชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นที่นิยมทั่วโลกได้ขนาดนี้


   ในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2016 แบรนด์ดังจากอิตาลีอย่าง Dolce & Gabbana นำกระเป๋าสานผูกพู่หลากสีมาเป็นไอเท็มประดับบนรันเวย์ จนเริ่มปลุกกระแสกระเป๋าสานให้เป็นที่นิยมขึ้นมา หรือหากเป็นแนวมินิมัลกว่าเดิม ก็มีตัวอย่างจาก Cult Gaia แบรนด์เมืองลอสแองเจลิส ที่นำไม้ไผ่มาสานเป็นกระเป๋าโครงครึ่งวงกลม ได้ลุคที่ดูเท่แบบกราฟิก และตั้งชื่อว่า Ark Bag ซึ่งกลายเป็นที่นิยมจนเกิดเป็นเทรนด์บนอินสตาแกรม ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้า และฮิปสเตอร์ชาวไทยต่างหามาใช้กัน บวกกับความที่ Ark Bag ไม่ใช่กระเป๋าจากดีไซเนอร์แบรนด์ใหญ่ ทำให้ราคาอยู่ในระดับที่สาวกแฟชั่นหลายๆ คนจ่ายไหว (เริ่มต้นที่ 128 US ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,500 บาทไทย) ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นหนึ่งในสาวๆ ที่รีบซื้อกระเป๋าสานมาใช้ตามเทรนด์ ก็อดคิดไม่ได้ว่าการออกแบบ เรื่องราว หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์ช่วยเพิ่มราคาขายของสิ่งที่เราเคยเห็นผ่านตาในชีวิตประจำวันได้เท่าตัว และสุดท้ายก็ยังมีผู้บริโภคที่รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็อยากซื้ออยู่ดี

เราอาจเรียกกระเป๋าสานว่าเป็น ‘เทรนด์’ ได้ในปัจจุบัน แต่หากย้อนกลับไปยุค 70s กระเป๋าสานก็เคยเป็นไอเท็มสำคัญในการแต่งตัวของไอคอนสาวชาวอังกฤษ (ที่ตอนนี้ก็ไม่สาวแล้ว) เธอชื่อว่า เจน เบอร์กิ้น (Jane Birkin) เป็นทั้งนักแสดง นางแบบ แฟชั่นไอคอน นักร้อง นักแต่งเพลง ผู้กำกับภาพยนตร์ และเป็นผู้นำเทรนด์กระเป๋าสานที่เรากำลังพูดถึงอีกด้วย!


     ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบแวดวงภาพยนตร์ การฟังเพลง หรือเป็นสายแฟชั่น เจน เบอร์กิ้น นับเป็นอีกหนึ่งไอคอนที่คุณควรทำความรู้จักเอาไว้ (แนะนำว่าก่อนอ่านเรื่องราวของเธอด้านล่าง


     1. เจน เบอร์กิ้น เป็นนักแสดงที่มีผลงานภาพยนตร์มาแล้วกว่า 70 เรื่อง อย่างเช่น Blow-Up (1966), Death on the Nile (1978) และล่าสุดภาพยนตร์สั้น The Railroad Lady (2016) แต่หนึ่งผลงานที่ควรค่าแก่การพูดถึงคือ Slogan (1969)ภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศสที่นำแสดงโดย เซิร์จ แกงส์บูร์ก (Serge Gainsbourg- นักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงชาวฝรั่งเศส ที่มีข่าวอื้อฉาวเรื่องผู้หญิงมาโดยตลอด) ก่อนถ่ายทำมีข่าวว่าทั้งคู่ไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไรนัก จนวันหนึ่งนักข่าวจับภาพทั้งสองไปทานอาหารเย็นที่ Maxim’s ร้านอาหารสไตล์อาร์ตนูโวประจำกรุงปารีส จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มสานสัมพันธ์ต่อกัน

     2. ความสัมพันธ์ของเจนและเซิร์จ กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง และกลายเป็นคู่รักขวัญใจชาวฝรั่งเศสที่ว่ากันว่าเก๋ที่สุด อาจจะเพราะบทเพลง Je T’aime…Moi Non Plus (I love you…Me neither) ในปี 1969 ที่ทั้งสองร้องด้วยกัน และกลายเป็นเพลงดังในตำนาน แต่แท้จริงแล้วเซิร์จแต่งเพลงนี้ให้กับคนรักเก่าที่เลิกราไปนานแล้วอย่าง บริดเจ็ต บาร์โดต์ (Brigitte Bardot) ซึ่งเจนก็ทนไม่ได้เท่าไหร่นัก จึงตัดสินใจนำบทเพลงนี้มาร้องใหม่คู่กับเซิร์จในเวอร์ชันของตัวเอง แถมเพิ่มท่อนที่แฝงความอีโรติกผ่านเสียงลมหายใจ และเสียงร้องแบบเซ็กซี่เข้าไปในบทเพลง จนเพลงขึ้นอันดับหนึ่งในประเทศอังกฤษ (แต่เพลงนี้ก็ถูกแบนไปเลยในหลายประเทศของยุโรป)

     3. ทั้งคู่แต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ ชาร์ล็อต แกงส์บูร์ก (Charlotte Gainsbourg) ที่โตมาเป็นนักแสดงอินดี้มากความสามารถ แต่สุดท้ายความรักของเจนและเซิร์จก็ต้องจบลง หลังความสัมพันธ์ยาวนาน 10 ปี เจนให้เหตุผลว่าไม่อาจทนกับพฤติกรรมเจ้าอารมณ์ของสามี และการดื่มอย่างหนักได้อีกต่อไป กระนั้นทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะหลังจากที่เจนพบรักใหม่ ตั้งครรภ์ และคลอดลูกสาว เซิร์จก็ได้ส่งเสื้อผ้าเด็กไปเป็นของขวัญ พร้อมกับการ์ดที่เขียนว่า ‘Papa Deux’ ซึ่งแปลเป็นไทยก็คือ ‘คุณพ่อคนที่สอง’


 หากใครอ่านมาถึงตอนนี้แล้วยังคงสงสัย ว่าทำไมดาราสาวคนนี้ต้องหิ้วตะกร้าแทนกระเป๋าด้วย เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเธออีกเรื่องที่จะตอบคำถามนี้ได้ และทำให้ เจน เบอร์กิ้น กับกระเป๋าสานของเธอเป็นเรื่องน่าจดจำยิ่งกว่าเดิม

     ในหมู่สาวๆ ที่ชื่นชอบ หรือสะสมกระเป๋าแบรนด์เนม ทุกคนคงรู้จักกระเป๋ารุ่นยอดฮิตจาก Hermès ที่มีชื่อว่า Birkin Bag เป็นอย่างดี นี่คือกระเป๋ารุ่นที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง Hermès ดีไซน์ขึ้นเพื่อเจน เบอร์กิ้นโดยเฉพาะ (บอกแล้วว่าเธอไม่ใช่เล่นๆ)

     ทุกวันนี้ Birkin Bag กลายเป็นไอเท็มสำคัญ คุณค่าของกระเป๋ารุ่นนี้ถึงขั้นมีคนเปรียบเทียบว่าการลงทุนซื้อ Birkin Bag นั้นจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนซื้อทอง หรือเล่นหุ้นเสียอีก โดยสาเหตุที่เจน เบอร์กิ้น กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์ Hermès ได้นั้น ก็เพราะกระเป๋าตะกร้าสานของเธอนี่ล่ะ!

     นิตยสาร Another ประเทศอังกฤษได้พิมพ์บทความเขียนถึง เจน เบอร์กิ้น ว่าเธอชื่นชอบการหิ้วกระเป๋าสานทรงตะกร้ามากๆ หิ้วติดตัวไปทุกที่ เพราะขนาดที่ใหญ่และบรรจุของได้เยอะ ทำให้เธอแอบจิ๊กของประดับเล็กๆ น้อยๆ จากสถานที่หรูหราต่างๆ ที่เธอไปได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เจนไปกินเลี้ยงคืนวันคริสมาสต์ เธอแอบขโมยเครื่องถ้วยชามจากร้านอาหาร Maxim’s ใส่ในตะกร้าใบใหญ่ แต่เมื่อต้องออกมาแจกลายเซ็นให้แฟนคลับ ตะกร้าที่เธอหิ้วหลุดมือทำให้จานแก้วราคาแพงหล่นออกมาต่อหน้าแฟนคลับ (ที่คงกำลังงงว่าจะพกจานมาร้านอาหารทำไม) สุดท้าย พนักงานของร้านก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมเก็บจานชามเหล่านั้นให้ พร้อมบอกว่าเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากทางร้าน

     แม้กระทั่งเดินทางข้ามประเทศ เจนก็พกตะกร้าใบนี้ขึ้นเครื่องบินไปด้วย มีครั้งหนึ่งที่เธอพยายามจะยัดกระเป๋าตะกร้าในช่องเก็บของด้านบนที่นั่ง แต่สุดท้ายกระเป๋าสานของเธอก็พลิกคว่ำไม่เป็นท่า ข้าวของข้างในก็หล่นออกมา จนทำให้เธอหงุดหงิด ด้วยความบังเอิญ หรือความโชคดีก็เป็นได้ ผู้โดยสารที่นั่งติดกับเธอคือ ฌอง หลุยส์ ดูมาร์ (Jean-Louis Dumas) ซึ่งเป็น CEO ของ Hermès เขายื่นข้อเสนอที่จะออกแบบกระเป๋ารุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ Hermès ให้กับเธอ ซึ่งถือเป็นการให้กำเนิด Birkin Bag ในตำนานนั่นเอง

     เจนไม่เคยรับค่าตัวจากการเป็น Brand Ambassador ของ Hermès เพียงแต่แลกกับการรับกระเป๋ามาใช้ (ซึ่งเธอขอมาใช้ทีละใบจนเก่าเท่านั้น ตอนนี้เธอกำลังใช้ Birkin Bag ใบที่ 5 ที่ได้มาจาก Hermès) ส่วนค่าลิขสิทธิ์ที่ยินยอมให้ใช้ชื่อ Jane Birkin ในการเรียกรุ่นกระเป๋านั้น เจนได้นำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้กับมูลนิธิที่เธอสนใจ แม้ในปี 2015 จะมีข่าวออกมาว่าเธอไม่ค่อยสบายใจที่ชื่อตัวเองต้องเป็นตัวแทนให้กับกระเป๋าหนังที่ทำมาจากหนังจระเข้แท้ ซึ่งถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์


 สุดท้ายนี้ หากใครเริ่มสนใจอยากจะเป็นเจ้าของ ‘ต้นฉบับ’ ของเทรนด์กระเป๋าสานในตำนานที่มีชื่อเรียกว่า ‘Jane Birkin Basket Bag’ ปัจจุบันก็มีแบรนด์ที่ผลิตกระเป๋าสานในรูปแบบเดียวกับที่ เจน เบอร์กิ้น เคยใช้ ไม่ว่าจะเป็น Little Doe แบรนด์สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งในปี 2008 ที่เน้นคุณภาพงานฝีมือในการผลิตทุกใบ โดยจับราคาสูงลิ่ว อยู่ที่ใบละ 267 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 11,612 บาทไทย และก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ อย่างแบรนด์ที่ตั้งชื่อตรงตัวเลยว่า Jane Birkin Basket Bag ของนางแบบและแฟชั่นไอคอนจากฝรั่งเศส โจน ดามาส (Jeanne Damas) แบรนด์นี้ขายกระเป๋าตะกร้าสองขนาด ทั้งใบเล็กและใบใหญ่ ส่วนราคาอยู่ที่ใบละ 200 ยูโร หรือประมาณ 7,600 บาทไทย การจับจองเป็นเจ้าของต้องเขียนอีเมลไปสั่งซื้อกับทางแบรนด์โดยตรงเท่านั้น


ซึ่งทางร้าน Sanfanns Shop ของเราก็มีกระเป๋าสาน ราคาถูก มามายหลายสไตล์ให้สาวๆได้เลือกสรรกันนะคะ

อย่าลืมนะคะ นึกถึงกระเป๋าสาน นึกถึง Sanfanns !!!

สนใจติดต่อ เข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ https://sanfanns.wixsite.com/home

203 views0 comments

Recent Posts

See All

Review : EGME405 ONLINE ENTREPRENUERSHIP (ผู้ประกอบการออนไลน์) น.ส.ทัศญาณ์ มัชฌิมา

สวัสดีค่ะ ข้าพเจ้านางสาวทัศญาณ์ มัชฌิมา คณะ KAAC รหัสนักศึกษา 5824324 เนื่องจากข้าพเจ้าเรียนในสาขาบัญชีบัณฑิต ทำให้ได้เรียนรู้ทฤษฏีต่างๆ...

REVIEW รายวิชา ธุรกิจและผู้ประกอบการออนไลน์ (EGME 405) โดย นางสาวณัฐจารี วัฒนเดช 5824083

ดิฉันนางสาวณัฐจารี วัฒนเดช 5824083 นักศึกษาชั้นปีที่4 สาขาบัญชี ได้มีพี่สาขาแนะนำการเรียนวิชาเสรีธุรกิจและผู้ประกอบการออนไลน์...

Review : EGME405 ONLINE ENTREPRENUERSHIP (ผู้ประกอบการออนไลน์)

วิชาผู้ประกอบการออนไลน์เป็นวิชาที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจออนไลน์ การขายของ หรือการวางแผนธุรกิจ ซึ่งในรายวิชานี้จะเป็นการเรียนเ...

Comments


bottom of page